
วัฒนธรรมทางรสชาติ :‘ผลไม้’ กับ ‘เครื่องจิ้ม’
วัฒนธรรมครัวไทยมักมีการใส่ส่วนผสมหรือเครื่องปรุงเพื่อเพิ่มรสชาติให้อาหารจัดจ้าน ครบรสมากขึ้น สำหรับผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจัด เราก็ให้ทำเครื่องจิ้มมาตัดรสผลไม้ให้รับประทานอร่อยขึ้น ครบ 5 รส เปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ด โดยการนำวัตถุดิบที่หาได้จากครัว มาตำหรือคลุกเคล้าให้เข้ากัน จนได้เป็นสูตรเครื่องจิ้มรสเด็ดคู่ผลไม้นานาชนิด

น้ำปลาหวาน
แค่ชื่อก็บ่งบอกถึงรสชาติที่นำมารวมกันจนเกิดเป็นเครื่องจิ้มรสเลิศ ชวนน้ำลายสอ เชื่อกันว่าน้ำปลาหวานเกิดขึ้นตั้งแต่ยุคสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา โดยการนำส่วนผสมอย่าง กุ้งแห้ง หอมซอย และพริกขี้หนูสด มาตำให้ละเอียด แล้วนำไปคลุกเคล้ากับน้ำปลาและน้ำตาลที่เคี่ยวจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำมาเป็นเครื่องจิ้มไว้รับประทานคู่กับมะม่วงดิบ หรือผลไม้รสเปรี้ยวจัดต่าง ๆ เช่น มะกอกน้ำ มะดัน ตะลิงปลิง ฯ ล ฯ
ในประเทศเพื่อนบ้านภูมิภาคเดียวกันอย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย มีการทำยำผลไม้ที่เรียกว่า ‘โรจะก์’ ซึ่งส่วนผสมของน้ำยำมีความคล้ายคลึงกันกับน้ำปลาหวานใส่กะปิในบ้านเรา โดยชาวอินโดนีเซียมีความเชื่อว่าโรจะก์สามารถเสี่ยงทายเพศของทารกได้ โดยแม่ที่ชอบรสหวานจะได้ลูกสาว ถ้าชอบรสเผ็ดจะได้ลูกชาย

พริกเกลือ
เครื่องจิ้มอีกประเภทที่แพร่หลาย ทำให้ผลไม้อร่อยถูกลิ้นคนไทยมากขึ้น หลายคนคงนึกถึง ‘พริกเกลือ’( คนละประเภทกับ‘พริกกะเกลือ’ โดยในความหมายอย่างหลังมีที่มาจากอาหารของทางมอญ ที่มีการนำมะพร้าวมาคั่วแล้วนำมาตำกับพริกและน้ำตาล) พริกเกลือ หรือ น้ำตาลพริกเกลือ เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทยที่นำรสเค็มของเกลือมาตัดรสชาติกับผลไม้รสเปรี้ยว ซึ่งนอกจากรสเค็มของเกลือแล้วยังมีการตำพริกใส่เข้าเพิ่มรสชาติให้ผลไม้ เช่น สับปะรด ชมพู่ ฝรั่ง ฯ ล ฯ ที่ในเวลาต่อมามีการทำสูตรใหม่ขึ้นมาเป็น พริกเกลือคลุกบ๊วยสีชมพู พริกเกลือชูรสต่าง ๆ

โยเกิร์ต
ในยุคสมัยใหม่เริ่มมีการนำเข้าผลไม้มาจากต่างประเทศ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี แอปเปิล กีวี องุ่น ซึ่งมีกลิ่นหอม รสเปรี้ยวหวานเป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว เมื่อนำมารวมกับเทรนด์คนรักสุขภาพในปัจจุบัน ก็ได้มีการนำผลไม้มารับประทานคู่กับโยเกิร์ต เพื่อประโยชน์ทางด้านสุขภาพที่มากขึ้น โยเกิร์ตน้ำตาลน้อย ไขมันต่ำ มีโปรตีนและแคลเซียมสูง เมื่อนำมาจับคู่กับผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน ใยอาหาร และคุณประโยชน์ต่าง ๆ ก็ยิ่งดีต่อสุขภาพมาขึ้นไปอีก